Search for:
  • Home/
  • /
  • พรีวิว : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พรีวิว : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เวลา 23.00 น. วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2548
ผู้ตัดสิน สตีฟ เบนเนตต์ (ออร์พิงตัน)
ถ่ายทอดสด ยูบีซี 39
ความพร้อมของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะได้รอย คาร์โรลล์ ผู้รักษาประตูกลับมาทำหน้าที่แทนชาก้า ฮิสล็อป หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่อลัน พาร์ดิว จะไม่มีไนเจล รีโอ-โคเกอร์ กัปตันทีม อีกหลายสัปดาห์เนื่องจากได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้แกรี่ เนวิลล์ และหลุยส์ ซาฮา กลับมาลงเล่นได้หลังจากได้รับอาการบาดเจ็บต้องพักยาว โดยทั้งคู่ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับบียาร์เรียล ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก และลงเล่นในเกมทีมสำรองในอีก 24 ชั่วโมงต่อมา
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รอย คาร์โรลล์, ชาก้า ฮิสล็อป, โทมัส เร็ปก้า, แอนตัน เฟอร์ดินานด์, แดนนี่ แก็บบิดอน, พอล คอนเชสกี้, ยอสซี่ เบนายูน, มาร์ค โนเบิล, คริสเตียน เดลลี่, ฌอน นิวตัน, เฮย์เด้น มุลลินส์, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, เท็ดดี้ เชอริงแฮม, มาร์ลอน แฮร์วู้ด, บ๊อบบี้ ซาโมร่า, เดวิด เบลลิยง, เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์, สตีเฟ่น บายวอเตอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, เวส บราวน์, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิเกล ซิลแวสตร์, จอห์น โอเชีย, คีแรน ริชาร์ดสัน, พอล สโคลส์, อลัน สมิธ, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, ปาร์ค จีซุง, เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่
ข้อมูลของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พยายามจะรักษาสถิติเริ่มต้นฤดูกาลได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพในการดวลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ชิพ 8 สมัย ซึ่งเมื่อวันอังคารไม่สามารถทำประตูได้เป็นนัดที่ 4 จาก 5 นัดของศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลนี้ การได้เพียงคะแนนเดียวจากการเสมอกับบียาร์เรียล แบบไร้สกอร์ทำให้โอกาสเข้ารอบต่อไปของพวกเขาต้องไปลุ้นในนัดสุดท้าย
ทีมขุนค้อน กำลังมองหาชัยชนะในเกมลีกที่ลงเล่นในบ้านเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และต้องการอีก 2 ประตูจะทำได้ครบ 300 ประตูในการลงเล่นเกมเหย้าในพรีเมียร์ชิพ พวกเขาขาดอีก 4 ประตูจะทำได้ครบ 5,000 ประตูในเกมลีกอาชีพ
สโมสรแห่งอัพตัน ปาร์ค ไม่เคยเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเหย้าในพรีเมียร์ชิพได้เลย แต่การพบกันในบ้าน 7 นัดจาก 10 นัดจบลงด้วยการเสมอกัน ครั้งหลังสุดที่เวสต์แฮม เอาชนะปิศาจแดง ได้ในเกมลีกที่ลงเล่นที่สนามอัพตัน ปาร์ค คือเมื่อวันที่ 22 เมษายน 1992 โดยเอาชนะไปได้ 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเยือนสนามอัพตัน ปาร์ค เพื่อจะทำสถิติคว้าชัยชนะในเกมลีก 3 นัดติดต่อกันให้ได้หลังจากเคยทำได้ในเกมเปิดสนาม 3 นัดแรกของฤดูกาลนี้ พวกเขาแพ้เพียงนัดเดียวจาก 6 นัดหลังสุดในลีก และคว้าชัยชนะในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ได้มากกว่าที่ทีมขุนค้อน เก็บชัยชนะได้ในเกมเหย้า (5 นัดต่อ 4 นัด)
ปิศาจแดง และเชลซี เป็นเพียง 2 สโมสรที่ทำประตูไม่ได้ในเกมลีกนัดเดียวในฤดูกาลนี้ พวกเขาทำได้นัดละ 3 ประตูใน 3 นัดจาก 7 นัดที่ออกไปเยือนในเกมลีกหลังจากที่เสมอแบบไร้สกอร์กับลิเวอร์พูล และทำได้นัดละ 1 ประตูในอีก 4 นัดที่เหลือ เกมที่แพ้ต่อมิดเดิ้ลสโบรซ์ ไป 1-4 เป็นการพ่ายแพ้ในเกมเยือนในลีกเพียงนัดเดียวของฤดูกาลนี้ แต่เกมนัดต่อไปที่แพ้ไม่ว่าจะเกมเหย้าหรือเกมเยือนจะเป็นการพ่ายแพ้ในลีกหลังสงครามโลกนัดที่ 600 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะเวสต์แฮม ไปได้ 6-0 ในการพบกันครั้งหลังสุดในศึกเอฟเอ คัพ รอบที่ 4 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2003 เกมหลังสุดที่ปิศาจแดง เอาชนะทีมขุนค้อน ได้ในลีกที่สนามอัพตัน ปาร์ค คือเกมที่ชนะไป 5-3 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2002 อีกนัดหนึ่งจาก 3 นัดที่เอาชนะได้ที่สนามอัพตัน ปาร์ค ในพรีเมียร์ชิพ ก็เป็นการถล่มประตูโดยชนะไป 4-2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1999 สโมสรแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังมีสถิติเอาชนะได้มากที่สุดในเกมเหย้าในลีกคือเอาชนะทีมขุนค้อน ไปได้ 7-1 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2000
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 8 มี 19 คะแนน (ก่อนที่ทุกทีมจะลงเล่นในสุดสัปดาห์นี้), ผลงาน 3 นัดหลังสุดในลีกจบลงด้วยการแพ้, ชนะ และเสมอ เรียงตามลำดับ, ผลงาน 12 นัดแรกของฤดูกาลในพรีเมียร์ชิพ ที่ดีที่สุดก่อนหน้านี้คือทำได้ 19 คะแนนในฤดูกาล 1998/99 และ 1999/2000, ชนะ 2 นัดจาก 4 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ใน 2 นัดจาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ และไม่เสียประตูใน 2 นัดจาก 7 นัดหลังสุดนั้น, ผ่านไปแล้ว 8 นัดในลีกหลังจากที่เคยชนะได้มากกว่า 1 ประตู (ชนะแอสตัน วิลล่า ไปได้ 4-0 เมื่อวันที่ 12 กันยายน), ทำประตูไม่ได้ในช่วง 25 นาทีแรกของเกมพรีเมียร์ชิพ ในฤดูกาลนี้, ทำประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกมพรีเมียร์ชิพ ได้มากกว่าสโมสรอื่น โดย 3 ประตูจาก 4 ประตูที่ทำได้เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ, ขึ้นนำในช่วงพักครึ่งเพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ (เล่นในบ้านพบกับแอสตัน วิลล่า ขึ้นนำ 2-0 ในครึ่งแรก และชนะ 4-0 เมื่อหมดเวลา), มีฟอร์มในครึ่งแรกของเกมพรีเมียร์ชิพ ย่ำแย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ คือในช่วงพักครึ่งสามารถขึ้นนำอยู่ 1 นัด, เสมอกันอยู่ 6 นัด และตามหลังอยู่ 5 นัด โดยทำได้ 2 ประตู และเสียไป 5 ประตู, ชนะ 1 นัดจากเกมที่ตามหลังอยู่ในช่วงพักครึ่ง (เกมนัดเปิดสนามที่เล่นในบ้านเอาชนะแบล็คเบิร์น ไปได้ 3-1 โดยตามหลังอยู่ 0-1 ในช่วงพักครึ่ง), มีสถิติความประพฤติดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพ (ไม่เคยได้ใบแดง, ได้ 14 ใบเหลือง), ทำได้ 10 คะแนนจากที่เป็นไปได้ 12 คะแนนหลังสุดที่สนามอัพตัน ปาร์ค, แพ้ในบ้านเพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ (แพ้โบลตัน ไป 1-2 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม), ทำประตูในเกมเหย้าในลีกไม่ได้เพียงนัดเดียวในฤดูกาลนี้ (เสมออาร์เซน่อล ไป 0-0 เมื่อวันที่ 24 กันยายน), ไม่เสียประตูใน 3 นัดจากเกมเหย้า 4 นัดหลังสุดในลีก และเสียไป 1 ประตูใน 4 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 3 มี 24 คะแนน (ก่อนที่ทุกทีมจะลงเล่นในสุดสัปดาห์นี้), ชนะ 6 นัดจาก 11 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ, ไม่แพ้ใน 3 นัดหลังสุดที่เล่นในพรีเมียร์ชิพ และแชมเปี้ยนส์ ลีก, แพ้นัดเดียวในเกมพรีเมียร์ชิพ 6 นัดหลังสุด โดยเป็นชัยชนะ 4 นัด, ชนะทุกนัดที่เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ (17 นัดที่ผ่านมา, 5 นัดในฤดูกาลนี้), ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ (เสมอกับลิเวอร์พูล ไป 0-0 ในเกมเยือน เมื่อวันที่ 18 กันยายน), ทำประตูคู่แข่งไม่ได้เพียงนัดเดียวจาก 17 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ไม่เสียประตู 1 นัดจาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ (ชนะเชลซี ไปได้ 1-0 ในเกมเหย้า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน), ทำคะแนนได้มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วอยู่ 6 คะแนน, มีสถิติลงเล่นเกมเยือนดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพ ทำได้ 16 คะแนนจากที่เป็นไปได้ 21 คะแนน, ทำประตูในเกมเยือนในลีกได้มากกว่าสโมสรอื่น (14 ประตู), เกมที่แพ้ต่อมิดเดิ้ลสโบรซ์ไป 1-4 เป็นการพ่ายแพ้นัดแรกในเกมเยือน 7 นัดในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ และใน 9 นัดรวมฤดูกาลที่แล้ว, ชนะ 5 นัดในการไปเยือนในลีก 7 นัดในฤดูกาลนี้, ทำประตูได้โดยเฉลี่ยนัดละ 2 ประตูในการออกไปเยือนในเกมลีก, ทำได้นัดละ 3 ประตูใน 3 นัดจาก 4 นัดหลังสุดที่ออกไปเยือนในเกมลีก, เสียประตูทุกนัดในเกมเยือน 4 นัดหลังสุดในลีก หลังจากไม่เสียประตูในเกมเยือน 3 นัดแรก
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เท็ดดี้ เชอริงแฮม จะได้ลงเล่นพบกับอดีตสโมสรต้นสังกัด โดยกองหน้าวัย 39 ปีผู้นี้เคยลงเล่นให้กับปิศาจแดง 153 นัด และทำได้ 46 ประตู
ถ้ารอย คาร์โรลล์ ได้ลงเล่น ก็จะเป็นการพบกับอดีตสโมสรต้นสังกัด
เดวิด เบลลิยง ถูกเวสต์แฮม ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 12 ประตูรวมทุกรายการ และเป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูได้มากที่สุด
ฟาน นิสเตลรอย นำเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ชิพ ร่วมกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี โดยทำไปแล้วคนละ 10 ประตูในพรีเมียร์ชิพ
ดาวยิงดัตช์แมน ทำไป 3 ประตูในการพบกับเวสต์แฮม 3 นัดในศึกเอฟเอ คัพ และพรีเมียร์ชิพ ในฤดูกาล 2002/03
ทั้ง 4 ประตูที่เวย์น รูนี่ย์ ทำได้ในพรีเมียร์ชิพ ฤดูกาลนี้เป็นการทำประตูในเกมเยือนทั้งหมด
ริโอ เฟอร์ดินานด์ เริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสรเวสต์แฮม
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก เวสต์แฮม ชนะ 34 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 43 ครั้ง, เสมอ 23 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ เวสต์แฮม ชนะ 2 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 11 ครั้ง, เสมอ 7 ครั้ง
สถิติการพบกันในการมาเยือนเวสต์แฮม
ในลีก เวสต์แฮม ชนะ 13 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 10 ครั้ง, เสมอ 17 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ เวสต์แฮม ชนะ 0 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 ครั้ง, เสมอ 7 ครั้ง
DaKinG